ในยุคที่ความงามเป็นเรื่องสำคัญ หลายคนมองหาวิธีปรับเปลี่ยนใบหน้าให้ดูดีขึ้น แต่การศัลยกรรมอาจเป็นทางเลือกที่ดูจริงจังเกินไปสำหรับบางคน ด้วยความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงที่ถาวร ทำให้หลายคนลังเลที่จะเลือกวิธีนี้ และตรงนี้เองที่เหล่าตัวช่วยอย่าง “หัตถการ” เข้ามามีบทบาทในการปรับเปลี่ยนหรือเสริมใบหน้าอย่างมีประสิทธิภาพไม่แพ้กับการศัลยกรรม
หัตถการร้อยไหม เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่เป็นที่นิยมสูงมาโดยตลอด เพราะด้วยผลลัพธ์ที่เห็นผลทันที ทำได้จริง และผลลัพธ์เชิงบวกจาก case study มากมายที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้ในเรื่องของการปรับให้หน้ามีความอ่อนเยาว์โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหน้า ไม่ว่าจะเป็นการยกประชับใบหน้า ลดริ้วรอย และผลลัพธ์อื่นๆ การร้อยไหมจึงเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ควรเลือกในการปรับใบหน้าและรูปหน้า และกลายมาเป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมแทบจะตลอดเวลาอย่างไม่ต้องสงสัย
การร้อยไหมคืออะไร และทำงานอย่างไร
การร้อยไหมเป็นหัตถการที่ใช้เส้นไหมละลายร้อยเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
โดยหลักการทำงานของการร้อยไหมมีดังนี้:
- ยกกระชับผิว: เส้นไหมที่มีเงี่ยงจะเกี่ยวผิวหนังขึ้นมาตามทิศทางที่ร้อยไหม ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยถูกดึงขึ้นและกระชับขึ้น แพทย์จะร้อยไหมตามแนวที่ต้องการยกกระชับ เช่น บริเวณแก้ม คาง หรือกรอบหน้า เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: เส้นไหมที่อยู่ใต้ผิวหนังจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงและยืดหยุ่น คอลลาเจนที่สร้างขึ้นจะช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระชับขึ้น แม้ว่าเส้นไหมจะละลายไปแล้ว
- กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต: การร้อยไหมจะกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณที่ร้อยไหม ทำให้ผิวได้รับสารอาหารและออกซิเจนมากขึ้น การไหลเวียนโลหิตที่ดีขึ้นจะช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีและเปล่งปลั่ง
ขั้นตอนการร้อยไหมโดยทั่วไป:
- ปรึกษาแพทย์: แพทย์จะประเมินสภาพผิวและรูปหน้า เพื่อวางแผนการร้อยไหมที่เหมาะสม
- ทำความสะอาดผิว: ทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะร้อยไหม เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
- ฉีดยาชา: ฉีดยาชาบริเวณที่จะร้อยไหม เพื่อลดความเจ็บปวดระหว่างทำ
- ร้อยไหม: แพทย์จะใช้เข็มนำเส้นไหมร้อยเข้าไปใต้ผิวหนังตามแนวที่กำหนด
- ตัดไหม: ตัดไหมส่วนเกินออก
ประเภทของไหมที่ใช้ในการร้อย
ไหมที่ใช้ในการร้อยไหมมีหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ดังนี้:
ประเภทของไหมตามวัสดุ:
- ไหมละลาย (Absorbable Threads):
- เป็นไหมที่ทำจากวัสดุที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้เองตามธรรมชาติ เช่น PDO (Polydioxanone), PLLA (Poly-L-lactic acid), และ PCL (Polycaprolactone)
- ไหมละลายเป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุด เนื่องจากมีความปลอดภัยและไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
- ระยะเวลาที่ไหมละลายจะอยู่ได้ในร่างกายแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุ
- ไหมไม่ละลาย (Non-absorbable Threads):
- เป็นไหมที่ทำจากวัสดุที่ไม่สามารถละลายได้ในร่างกาย เช่น โพลีโพรไพลีน (Polypropylene) หรือไหมทองคำ (Gold Thread)
- ไหมไม่ละลายมีผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าไหมละลาย แต่ก็มีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงมากกว่า
ประเภทของไหมตามลักษณะ:
- ไหมเรียบ (Mono Threads):
- เป็นไหมเส้นเล็กเรียบ ไม่มีเงี่ยงหรือตะขอ
- ใช้ในการกระตุ้นคอลลาเจนและปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น
- ไม่เหมาะสำหรับการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยมาก
- ไหมเกลียว (Screw Threads):
- เป็นไหมที่มีลักษณะเป็นเกลียว ช่วยเพิ่มปริมาตรและยกกระชับผิว
- เหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณที่มีร่องลึก เช่น ร่องแก้ม
- ไหมเงี่ยง (Barbed Threads หรือ Cog Threads):
- เป็นไหมที่มีเงี่ยงหรือตะขอเล็กๆ ช่วยเกี่ยวผิวหนังให้ยกกระชับขึ้น
- เหมาะสำหรับการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยปานกลางถึงมาก
- มีหลายรูปแบบของเงี่ยง เช่น เงี่ยงแบบบาก เงี่ยงแบบหล่อ เงี่ยงแบบ 3D Cog
- ไหมกรวย (Silhouette Soft):
- เป็นไหมที่มีกรวยเล็กๆ ช่วยยึดเกาะผิวหนังและยกกระชับ
- ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยาวนาน
- ไหมมิ้นท์ (Mint Lift):
- เป็นไหมที่มีเงี่ยงลักษณะพิเศษ มีความแข็งแรง สามารถยกกระชับผิวได้ดี
- ไหมตาข่าย (Tesslift Soft):
- เป็นไหมเงี่ยงล้อมรอบด้วยตาข่าย มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความแข็งแรง ยกพยุงผิวได้ดี
บริเวณที่แนะนำในการร้อยไหม
- ใบหน้า:
- การร้อยไหมบริเวณใบหน้าเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น และลดเลือนริ้วรอย
- บริเวณที่นิยมร้อยไหมบนใบหน้า ได้แก่ แก้ม ร่องแก้ม กรอบหน้า และคาง
- จมูก:
- การร้อยไหมจมูกช่วยเสริมสันจมูกให้โด่งขึ้น และปรับรูปทรงปีกจมูกให้เล็กลง
- ยกหางตาและหางคิ้ว:
- การร้อยไหมบริเวณนี้ช่วยยกหางตาและหางคิ้วให้ดูเฉี่ยวขึ้น ลดปัญหาหนังตาตก และปรับรูปทรงคิ้วให้สวยงาม
- ลำคอและเหนียง:
- การร้อยไหมบริเวณลำคอและเหนียงช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ลดเลือนริ้วรอย และปรับรูปทรงลำคอให้ดูเรียวขึ้น
รอยไหม ดีกว่าไหม? ใครที่เหมาะกับหัตถการนี้ ?
การร้อยไหมคือการใช้ไหมละลายร้อยเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง เมื่อละลายไหมเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นอีลาสติก และจะช่วยยกกระชับใบหน้าพร้อมกับกระตุ้นให้ผิวเต่งตึงกระชับมากขั้น ทั้งนี้ก่อนการทำร้อยไหมเรามาทำความเข้าใจกันอย่างถี่ถ้วนก่อนว่าใครที่เหมาะกับหัตถการนี้บ้าง
- ที่มีปัญหาผิวย้อย หย่อยคล้อย ไม่กระชับ และอยากปรับผิวหน้าให้ดูดีมากขึ้น
- ผู้ที่มีริ้วรอยและอยากให้ผิวหน้ามีความเต่งตึง
- ผู้ที่อยากให้ใบหน้ามีความเรียว ทรงหน้ามีความเป็นวีเชฟโดยไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด
- เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อแก้มเยอะและต้องการปรับรูปหน้าให้เห็นชัดโดยเฉพาะ
ข้อแตกต่างระหว่างการร้อยไหมและศัลยกรรม
- ไม่ต้องผ่าตัด: เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่ต้องกังวลเรื่องแผลเป็นและระยะพักฟื้น ซึ่งถ้าเทียบกับการศัลยกรรมอาจต้องมีการพักฟื้นที่นานกว่า ซึ่งอาจกินเวลาหลายสัปดาห์
- เห็นผลลัพธ์ทันที: สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ โดยผลลัพธ์อยู่ได้ 6 เดือนถึง 2 ปี แต่ยังคงผลลัพธ์ได้ไม่ดีเท่าการศัลยกรรม
- เหมาะกับผู้มีผิวหน้าหย่อนคล้องไม่กระชับ แต่อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมากๆ หรือต้องการแก้ไขโครงสร้างหน้า
- ไม่ต้องมีการผ่าตัด มีแผล ความเสี่ยงของการมีแผลเป็นเมื่อเทียบกับการศัลยกรรม
- ปลอดภัย: โดยทั่วไปมีความปลอดภัยสูง
- มีความเสี่ยงน้อยกว่าศัลยกรรม ความเสี่ยงในการติดเชื้อ และผลข้างเคียงอื่นๆของการศัลยกรรมก็จะสูงกว่าด้วย
ใครที่เหมาะกับการร้อยไหม?
การร้อยไหมเป็นหัตถการที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง และต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยลักษณะของคนที่เหมาะกับการร้อยไหม มีดังนี้:
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย:
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยบริเวณแก้ม คาง กรอบหน้า หรือลำคอ
- ผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ต้องการให้ผิวเต่งตึงอีกครั้ง
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า:
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น เช่น ผู้ที่มีแก้มเยอะ หรือมีคางสองชั้น
- ผู้ที่ต้องการปรับให้รูปหน้าเรียว V-Shape
- ผู้ที่มีเนื้อแก้มเยอะและต้องการปรับรูปหน้าให้ชัดเจน
- ผู้ที่ต้องการลดเหนียงและปรับกรอบหน้าให้คมขึ้น (ร้อยไหมลดเหนียง)
- ผู้ที่ต้องการยกหางตา หรือยกคิ้ว
- ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด:
- เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวการผ่าตัด หรือไม่ต้องการมีแผลเป็น
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และมีระยะพักฟื้นสั้น
- ผู้ที่มีอายุ 30-50 ปี:
- โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่มีอายุในช่วงนี้จะมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งการร้อยไหมสามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้ดี
- อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี หรือมากกว่า 50 ปี ก็สามารถร้อยไหมได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- ผู้ที่มีสุขภาพดี:
- ผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง หรือปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่ไม่มีการติดเชื้อของผิวหนังบริเวณที่จะทำการร้อยไหม
ประโยชน์ของการร้อยไหม
5 เหตุผลที่หัตถการร้อยไหมคือสิ่งที่ใช่สำหรับคุณ
1. ไม่ต้องผ่าตัด ปลอดภัยกว่า
หัตถการร้อยไหมเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการผ่าตัดศัลยกรรมแบบดั้งเดิม เนื่องจากไม่ต้องใช้มีดผ่าตัดหรือการดมยาสลบ แพทย์จะใช้เข็มพิเศษสอดไหมเข้าไปใต้ผิวหนังเท่านั้น ทำให้ลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัดใหญ่ เหมาะสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องความปลอดภัยหรือมีข้อจำกัดทางการแพทย์
2. ฟื้นตัวเร็ว กลับสู่ชีวิตปกติได้ทันที
ข้อดีที่โดดเด่นอีกประการของการร้อยไหมคือระยะเวลาพักฟื้นที่สั้น หลังทำหัตถการ คนไข้สามารถกลับบ้านได้ทันทีและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยอาจมีอาการบวมหรือช้ำเล็กน้อยในช่วงแรกเท่านั้น ต่างจากการผ่าตัดที่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า
3. ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ไม่ดูฝืนธรรมชาติจนเกินไป
การร้อยไหมช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้ใบหน้าดูแข็งหรือผิดธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้จะดูสดใส อ่อนเยาว์ แต่ยังคงความเป็นตัวคุณอยู่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงรูปหน้าแต่ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงลุคของตัวเองมากจนเกินไป
4. ปรับแต่งได้ตามต้องการ
หัตถการร้อยไหมสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะบุคคลได้ แพทย์สามารถเลือกตำแหน่งและจำนวนไหมที่ใช้ให้เหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้าและความต้องการของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการยกกระชับแก้ม ลดเหนียง หรือปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
5. ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการร้อยไหมอาจสูงกว่าการฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่ได้นานกว่า โดยทั่วไปสามารถอยู่ได้นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่ใช้ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวเมื่อเทียบกับการทำทรีตเมนต์อื่นๆ ที่ต้องทำซ้ำบ่อยครั้ง
มากไปกว่านี้ การทำร้อยไหมที่เห็นผลและมีประสิทธิภาพที่สุดจะเหมาะกับผู้ที่อยู่ในช่วงวัย 30-60 ปี และต้องมีผิวหนังที่ไม่หย่อนคล้อยจนเกินไป เนื้อเยื้อต้องไม่มีการยุบตัว และที่สำคัญคือควรเลือกคลินิคที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ
Agaligo เราเป็นคลินิคที่ใส่ใจลูกค้าทุกท่าน การร้อยไหมทั้งสำหรับมือใหม่หรือผู้ที่เคยทำมาแล้ว ความงามสำหรับเราคือความงามที่เป็นเอกลัษณ์เฉพาะตัว ดังนั้นทุกคนที่เข้ารับบริการกับเราจะได้รับการบริการที่นอกจากจะตอบโจทย์แล้วยังคงเอกลักษณ์ความเป็นตัวเอง มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดด้วยเทคนิคของแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ผ่านการทำหัตถการมามากกว่า 12 ปี การันตีว่าหลังทำหัตถการกับเราคุณจะเดินออกไปได้อย่างมั่นใจกว่าที่เคย
ประโยชน์เพิ่มเติมของการร้อยไหม
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน:
- การร้อยไหมจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวเต่งตึง ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์
- การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีในระยะยาว
- ปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น:
- การร้อยไหมสามารถช่วยปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น โดยการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและมีชีวิตชีวา
- การกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต จะช่วยให้สารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ผิวได้ดีขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ:
- การร้อยไหมสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ เช่น ริ้วรอยใต้ตา ริ้วรอยมุมปาก และริ้วรอยหน้าผาก
- การร้อยไหมจะช่วยเติมเต็มร่องริ้วรอย ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- กระชับรูขุมขน:
- การร้อยไหมบางชนิด สามารถช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนละเอียดขึ้น
- ฟื้นฟูผิว:
- ร้อยไหมจะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูสุขภาพดีขึ้น เนื่องจากตัวไหม จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
ร้อยไหมหน้าเรียว: ปรับรูปหน้าสวยอย่างเป็นธรรมชาติ
การร้อยไหมเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียว เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากช่วยยกกระชับผิวหน้าและปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด หลักการทำงานของการร้อยไหมเพื่อปรับรูปหน้าเรียวมีดังนี้:
- การยกกระชับผิว:
- เส้นไหมที่มีเงี่ยงหรือตะขอเล็กๆ จะเกี่ยวผิวหนังขึ้นมาตามแนวที่ร้อยไหม ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยถูกดึงขึ้นและกระชับขึ้น
- แพทย์จะร้อยไหมตามแนวกรอบหน้าและบริเวณแก้ม เพื่อดึงผิวให้ยกขึ้นและปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
- การปรับรูปหน้า:
- การร้อยไหมสามารถปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นได้ โดยการยกกระชับผิวบริเวณแก้มและกรอบหน้า ทำให้ใบหน้าดูเล็กลงและมีมิติมากขึ้น
- แพทย์จะวางแผนการร้อยไหมให้เหมาะสมกับรูปหน้าของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- การกระตุ้นคอลลาเจน:
- เส้นไหมที่อยู่ใต้ผิวหนังจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงและยืดหยุ่น
- คอลลาเจนที่สร้างขึ้นจะช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระชับขึ้น แม้ว่าเส้นไหมจะละลายไปแล้ว
บริเวณที่นิยมร้อยไหมเพื่อปรับรูปหน้าเรียว:
- แก้ม: การร้อยไหมบริเวณแก้มช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ทำให้แก้มดูยกกระชับและใบหน้าดูเรียวขึ้น
- กรอบหน้า: การร้อยไหมบริเวณกรอบหน้าช่วยยกกระชับผิวบริเวณกราม ทำให้กรอบหน้าดูชัดเจนและใบหน้าดูเรียวขึ้น
- คาง: การร้อยไหมบริเวณคางช่วยยกกระชับผิวบริเวณคางและเหนียง ทำให้คางดูเรียวขึ้นและลดปัญหาคางสองชั้น
ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้จากการร้อยไหมหน้าเรียว
การร้อยไหมหน้าเรียวจะช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณแก้มและกรอบหน้า ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลงและมีมิติมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเต่งตึงและอ่อนเยาว์ขึ้นอีกด้วย โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่ใช้ และการดูแลตัวเองหลังทำ
ร้อยไหมยกกระชับ: คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวหน้า
การร้อยไหมยกกระชับเป็นหัตถการที่ใช้เส้นไหมละลายร้อยเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยมีหลักการทำงานดังนี้:
- ยกกระชับผิว:
- เส้นไหมที่มีเงี่ยงหรือตะขอเล็กๆ จะเกี่ยวผิวหนังขึ้นมาตามแนวที่ร้อยไหม ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยถูกดึงขึ้นและกระชับขึ้น
- แพทย์จะร้อยไหมตามแนวที่ต้องการยกกระชับ เช่น บริเวณแก้ม คาง หรือกรอบหน้า เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน:
- เส้นไหมที่อยู่ใต้ผิวหนังจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน คอลลาเจนที่สร้างขึ้นจะช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระชับขึ้น
- กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต:
- การร้อยไหมจะกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณที่ร้อยไหม ทำให้ผิวได้รับสารอาหารและออกซิเจนมากขึ้น
- การไหลเวียนโลหิตที่ดีขึ้นจะช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีและเปล่งปลั่ง
ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้จากการร้อยไหมหน้าเรียว
- ผิวยกกระชับขึ้น: เส้นไหมจะดึงผิวที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้นทันที
- รูปหน้าเรียวขึ้น: ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวและมีมิติมากขึ้น
- กระตุ้นคอลลาเจน: ทำให้ผิวเต่งตึงและอ่อนเยาว์ในระยะยาว
- ริ้วรอยลดเลือน: ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า
- ระยะเวลาผลลัพธ์: โดยทั่วไปอยู่ได้ 6 เดือน – 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดไหมและดูแลหลังทำ
ร้อยไหมลดเหนียง: ปรับกรอบหน้าให้คมชัด
การร้อยไหมลดเหนียงเป็นหัตถการที่ช่วยยกกระชับผิวบริเวณใต้คางและลำคอ เพื่อลดความหย่อนคล้อยและปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น
ขั้นตอนการทำการร้อยไหมลดเหนียง
- แพทย์จะใช้เข็มนำเส้นไหมร้อยเข้าไปใต้ผิวหนังตามแนวที่กำหนด
- เส้นไหมที่มีเงี่ยงหรือตะขอเล็กๆ จะเกี่ยวผิวหนังขึ้นมาและดึงให้กระชับขึ้น
- แพทย์จะร้อยไหมตามแนวกรอบหน้าและบริเวณใต้คาง เพื่อดึงผิวให้ยกขึ้นและปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้จากการร้อยไหมลดเหนียง
- ลดความหย่อนคล้อยของเหนียง:
- เส้นไหมจะช่วยดึงผิวบริเวณใต้คางและลำคอให้กระชับขึ้น ทำให้เหนียงดูเล็กลงและรูปหน้าดูเรียวขึ้น
- ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น:
- การยกกระชับผิวบริเวณเหนียงจะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวและมีมิติมากขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอย:
- การร้อยไหมสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ บริเวณลำคอและใต้คางได้
- ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ:
- การร้อยไหมจะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ดูแข็งทื่อ
เคล็ดลับการดูแลตัวเองหลังร้อยไหมลดเหนียง
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำสั้นๆ ในการดูแลตัวเองหลังการร้อยไหม:
- ประคบเย็น: ประคบเย็นบริเวณที่ร้อยไหมเพื่อลดอาการบวมและช้ำในช่วง 2-3 วันแรก
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส: งดการสัมผัส นวด หรือเกาบริเวณที่ร้อยไหม เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของไหม
- งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อน: หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อน เช่น การอบซาวน่า หรือการออกกำลังกายหนักๆ
- งดแอลกอฮอล์และบุหรี่: งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อลดอาการบวม
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม
การดูแลตัวเองหลังการร้อยไหมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง โดยมีข้อควรระวังและข้อหลีกเลี่ยงดังนี้:
ข้อควรระวัง:
- การสัมผัสบริเวณที่ร้อยไหม: หลีกเลี่ยงการสัมผัส การกดนวด หรือการเกาบริเวณที่ร้อยไหมอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของไหมและการติดเชื้อ
- การแสดงสีหน้า: งดการแสดงสีหน้าแรงๆ เช่น การยิ้มกว้างๆ การอ้าปากกว้าง หรือการเคี้ยวอาหารแรงๆ ในช่วง 3 วันแรก เพื่อป้องกันไหมเคลื่อนที่
- การนอน: งดการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำในช่วง 1-3 วันแรก เพื่อป้องกันการกดทับบริเวณที่ร้อยไหม
- การทำหัตถการอื่นๆ: งดการทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น เทอร์มาจ และงดทำทรีตเมนต์ นวดหน้า ขัดผิวหน้า อย่างน้อย 1 เดือน
- การทำฟัน: งดการทำฟันอย่างน้อย 1 เดือน หากมีนัดทำฟัน ควรทำก่อนการร้อยไหม
- การติดเชื้อ: หากมีอาการปวด บวม แดง ร้อน หรือมีหนองบริเวณที่ร้อยไหม ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
ข้อหลีกเลี่ยง:
- ความร้อน: หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น การอบซาวน่า การอาบน้ำอุ่น การตากแดด และการออกกำลังกายหนักๆ ที่ทำให้เหงื่อออกมาก ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
- แอลกอฮอล์และบุหรี่: งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการบวมและช้ำมากขึ้น
- ยาและอาหารเสริมบางชนิด: งดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา และอาหารเสริมบางชนิดที่ทำให้เลือดหยุดยาก เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- อาหารบางชนิด: หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารทะเล และอาหารรสจัด ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการบวมและอักเสบ
- การแต่งหน้า: หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าบริเวณที่ร้อยไหมอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- การทาครีม: หลีกเลี่ยงการทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- ประคบเย็น: ประคบเย็นบริเวณที่ร้อยไหมเพื่อลดอาการบวมและช้ำในช่วง 2-3 วันแรก
- นอนยกศีรษะสูง: นอนยกศีรษะสูงในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อลดอาการบวม
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมหลังการร้อยไหมจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
ทำไมต้อง Agaligo?
- ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของทีมแพทย์ : เรามีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ เชื่อถือได้ มีประสบการณ์ในการแนะนำลูกค้าได้อย่างชัดเจนและเห็นผลลัพธ์ไวอย่างปลอดภัย
- เทคนิคการร้อยไหมที่เป็นเอกลักษณ์ : ทีมแพทย์เรามีเทคนิค และความเชี่ยวชาญในการร้อยไหมโดยเฉพาะ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่า และคงผลยาวนานกว่า
- การดูแลและให้คำปรึกษาอย่างใส่ใจ : ด้วยความใส่ใจลูกค้าเรามีทีมติดตามสอบถามอาการ และให้คำปรึกษาลูกค้าอยู่เสมอทั้งก่อนและหลังการร้อยไหม ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่ได้ผลลัพธ์ที่ดี มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรา
Recent Comments