เหนียงคืออะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร?
เหนียง หรือไขมันใต้คาง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น ไขมันส่วนเกินเริ่มสะสมบริเวณใต้คาง ทำให้เกิดลักษณะคางสองชั้น หรือใบหน้าหย่อนคล้อย ซึ่งอาจทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากกว่าความเป็นจริง
ปัจจัยที่ทำให้เกิดเหนียง ได้แก่:
- อายุ: เมื่ออายุมากขึ้น ผิวสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ความกระชับของผิวลดลง
- พันธุกรรม: บางคนมีโครงสร้างใบหน้าและพันธุกรรมที่เอื้อต่อการเกิดเหนียงได้ง่าย
- น้ำหนักตัว: การสะสมของไขมันส่วนเกินอาจทำให้ไขมันไปกองที่บริเวณใต้คาง
- ท่าทางและพฤติกรรม: การก้มหน้าเล่นโทรศัพท์หรือทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน อาจส่งผลให้กล้ามเนื้อใต้คางอ่อนแรงและทำให้เหนียงชัดขึ้น
การร้อยไหมเป็นเทคนิคยกกระชับใบหน้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัดและสามารถเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว การร้อยไหมเก็บเหนียงเป็นการใช้ไหมละลายสอดเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณใต้คาง เพื่อช่วยพยุงและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวบริเวณคางกระชับขึ้น ลดเหนียง และช่วยให้กรอบหน้าดูชัดเจนขึ้น
ชนิดของไหมที่ใช้ร้อยไหมเก็บเหนียง
ไหมที่ใช้ในการร้อยไหมเก็บเหนียงมีหลายประเภท แต่หลักๆ จะเป็นไหมละลายที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ ได้แก่:
- ไหม PDO (Polydioxanone) – เป็นไหมที่นิยมใช้มากที่สุด มีอายุประมาณ 6-8 เดือน และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี
- ไหม PLLA (Poly-L-Lactic Acid) – ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้มากขึ้นและอยู่ได้นานกว่าไหม PDO
- ไหม PCL (Polycaprolactone) – เป็นไหมที่มีอายุการใช้งานนานที่สุด อยู่ได้นานถึง 2 ปี และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
ร้อยไหมเก็บเหนียงช่วยอะไรบ้าง?
- ยกกระชับผิวใต้คาง: ช่วยให้บริเวณใต้คางดูตึงกระชับขึ้น
- ลดไขมันใต้คาง: ทำให้เหนียงลดลง ส่งผลให้รูปหน้าดูเรียวขึ้น
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: ช่วยให้ผิวแน่นขึ้นและลดความหย่อนคล้อย
- เพิ่มกรอบหน้าชัดเจน: ทำให้ใบหน้าดูเรียวและได้รูปมากขึ้น
- ไม่ต้องพักฟื้นนาน: สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ภายใน 1-2 วัน
ขั้นตอนการร้อยไหมเก็บเหนียง
- ปรึกษาแพทย์ – แพทย์จะประเมินใบหน้าและปัญหาของผู้รับบริการเพื่อวางแผนการร้อยไหม
- ทำความสะอาดและฉีดยาชา – บริเวณใต้คางจะถูกทำความสะอาดและฉีดยาชาเพื่อลดความเจ็บ
- ร้อยไหม – แพทย์จะสอดไหมเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อยกกระชับบริเวณเหนียง
- ปรับตำแหน่งไหม – ตรวจสอบความสมดุลและความกระชับของใบหน้า
- ดูแลหลังทำ – แพทย์จะแนะนำวิธีดูแลตัวเองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การดูแลตัวเองหลังร้อยไหมเก็บเหนียง
การดูแลตัวเองหลังร้อยไหมเก็บเหนียง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดนวดบริเวณที่ทำในช่วง 2 สัปดาห์แรก
- หลีกเลี่ยงอาหารแข็งหรือเคี้ยวยากเพื่อลดแรงกดบริเวณใต้คาง
- งดออกกำลังกายหนักๆ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่ เพราะอาจทำให้แผลหายช้า
- รับประทานอาหารที่มีคอลลาเจน เช่น ปลาแซลมอน กระดูกอ่อน หรือผลไม้ที่มีวิตามินซี เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
ผลลัพธ์ของการร้อยไหมเก็บเหนียง
ผลลัพธ์ของการร้อยไหมสามารถเห็นได้ตั้งแต่หลังทำเสร็จทันที และจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1-3 เดือน เนื่องจากไหมจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง โดยทั่วไปผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่ใช้และการดูแลตัวเองหลังทำ
ข้อดีและข้อเสียของการร้อยไหมเก็บเหนียง
ข้อดี
✅ ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้นนาน
✅ เห็นผลเร็ว และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
✅ ปลอดภัยเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ข้อเสีย
❌ อาจมีอาการบวมและช้ำเล็กน้อยในช่วงแรก
❌ ผลลัพธ์ไม่ได้ถาวร ต้องทำซ้ำเมื่อต้องการคงผลลัพธ์
❌ ต้องเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง
ใครที่เหมาะกับการร้อยไหมเก็บเหนียง?
- ผู้ที่มีเหนียงและต้องการให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
- ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดดูดไขมัน
- ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง
- ผู้ที่ต้องการให้ใบหน้ากระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ข้อควรระวังก่อนร้อยไหมเก็บเหนียง
- ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการร้อยไหม
- ตรวจสอบว่าไหมที่ใช้เป็นไหมที่ผ่านการรับรองจาก อย.
- หากมีโรคประจำตัวหรือกำลังใช้ยาบางชนิด ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำหัตถการ
สรุป
การร้อยไหมเก็บเหนียงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดเหนียงและยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด แม้ผลลัพธ์จะไม่ถาวร แต่สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวใต้คางกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ การเลือกคลินิกและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด
หากคุณกำลังมองหาวิธีกำจัดเหนียง ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม เพื่อประเมินว่าการร้อยไหมเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณหรือไม่!
Recent Comments