การ ฉีดฟิลเลอร์ปาก แนวสายฝอ เป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมในยุคนี้ เพราะสาว ๆ ส่วนใหญ่ใฝ่ฝันอยากครอบครองริมฝีปากอิ่มสวยได้รูป อย่างเป็นธรรมชาติ แต่การจะเป็นเจ้าของปากรูปทรงแสนสวยนี้ได้เราต้องรู้ก่อนว่าริมฝีปากของเราฉีดได้ไหม การฉีดปากมีข้อควรระวังอะไร และฉีดปากไปแล้วควรปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์ปากแบบสายฝอ คืออะไร
เป็นหนึ่งในหัตถการเพื่อความงามที่แพทย์จะฉีดสารไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ ฟิลเลอร์ (Filler) ไปยังริมฝีปากของเราทั้งบน และล่าง เพื่อเพิ่มวอลลุ่ม ความเต่งตึง และปรับรูปปากให้เป็นทรงที่เราต้องการ สำหรับการฉีดปากแนวสายฝอ จะเป็นปากที่มีลักษณะหยักบริเวณริมฝีปากบนคล้ายรูปตัวเอ็มแบบมน อาจมีการฉีดเพิ่ม 2 กระเปาะให้ดูอวบอิ่มเป็นทรงมากขึ้นได้ตามความต้องการของคนไข้ และมีติ่งบริเวณกลางริมฝีปากบนเล็กน้อย ส่วนริมฝีปากล่างจะอวบอิ่มเต่งตึงรับกับริมฝีปากบน
ในการฉีดฟิลเลอร์ปากแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่แพทย์จะพิจารณาฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 1 CC เพื่อให้ริมฝีปากได้รูปทรงสวยกำลังดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเนื้อริมฝีปากเดิมด้วย หากคนไข้มีริมฝีปากบาง และอยากเพิ่มวอลลุ่มให้มากขึ้น แพทย์อาจพิจารณาเพิ่มปริมาณฟิลเลอร์เป็นกรณีๆ ไป
ใครบ้างที่เหมาะสำหรับปากแนวสายฝอ
- ผู้ที่มีริมฝีปากบาง มีเนื้อปากน้อย
- ผู้ที่ไม่อยากศัลยกรรมริมฝีปาก
- ผู้ที่ชอบปากสายฝอ อยากให้ริมฝีปากได้รูปสวย
- ผู้ที่มุมปากตก ปากคว่ำ ทำให้ใบหน้าดูบึ้งตึง
- ผู้ที่มีริมฝีปากไม่เท่ากัน
- ผู้ที่ขอบปากไม่ชัด ไม่เป็นทรงชัดเจน
การฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- ช่วยให้ริมฝีปากเป็นทรงสวยตามที่ต้องการ
- ริมฝีปากมีมิติ ดูอวบอิ่ม เติมเต็มริมฝีปากที่บางลงจากอายุที่เพิ่มขึ้น
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก
- ปรับมุมปากให้ยก เสริมบุคลิกให้ดูเป็นมิตรมากขึ้น
- ปรับทรงปากให้รับกับใบหน้า เสริมความมั่นใจ
- แก้ปัญหาริมฝีปากแห้ง แตก หรือเป็นร่อง
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปากมีอะไรบ้าง
- เห็นผลลัพธ์ทันที ไม่ต้องผ่าตัดเพื่อเสียเวลาพักฟื้น
- ไม่มีแผลเป็นหลังทำ
- มีความเป็นธรรมชาติกว่าการผ่าตัด
- คงอยู่ได้นานสูงสุด 18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
- อาจมีอาการบวมหลังฉีด 7-14 วัน แต่อาการจะหายไปเอง และริมฝีปากจะเข้าที่หลังจากผ่านไป 1-2 สัปดาห์
- มีความปลอดภัยสูง
- หากไม่พอใจกับรูปปาก สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้
- สามารถฉีดยกมุมปากเพื่อปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ได้
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- งดใช้หลอดดูดน้ำ และทาลิปสติกในช่วง 12 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
- งดกิจกรรม หรือการออกกำลังกายหนัก เพราะอาจทำให้ปากเสียงทรงได้
- ห้ามนวด คลึง หรือสัมผัสริมฝีปากในระยะแรก
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มร้อน เพราะอาจก่อให้เกิดการอักเสบ
- ห้ามดึง หรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะอาจทำลายผิวริมฝีปาก ทำให้สูญเสียความชุ่มชื้น
- พยายามดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ปากให้ปลอดภัย ต้องทำอย่างไรบ้าง
- เลือกแพทย์ที่มีความรู้ และประสบการณ์ การฉีดฟิลเลอร์ปากให้ได้ทรงสวยเข้ากับรูปหน้า สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึง คือ การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญ เพราะการฉีดฟิลเลอร์ต้องใช้ความแม่นยำสูง อีกทั้งยังต้องอาศัยประสบการณ์ในการออกแบบทรงปากให้เข้ากับรูปหน้าของคนไข้แต่ละราย
- เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ คลินิกที่คนไข้เลือกต้องมีเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการติดไว้ให้เห็นชัดเจน เปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สะอาดถูกสุขอนามัย ไม่ทึบอึดอัด เลือกใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัย มีแพทย์เฉพาะทางที่สามารถตรวจสอบได้ พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการ
- ใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน โดยเราสามารถตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ของฟิลเลอร์ได้ว่าเป็นรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร เลขล็อตเท่าไหร่ สแกน QR Code ได้ มีวันหมดอายุแจ้งไว้ชัดเจน
- มีช่องทางติดต่อชัดเจน เพื่อให้เราสอบถามคำแนะนำในการปฏิบัติตัวอย่างใกล้ชิด หรือหากมีปัญหาใด ๆ สามารถติดต่อคลินิก และแพทย์ผู้ดูแลเคสได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
เมื่อเราได้ริมฝีปากทรงสวยดูธรรมชาติตามที่ใฝ่ฝันมาครอบครองแล้ว อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ริมฝีปากสวย ๆ อยู่กับเราไปนาน ๆ และเมื่อพบอาการผิดปกติใด ๆ ก็ตาม ควรรีบมาพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อให้แพทย์วินิจฉัย และวางแผนการรักษาอย่างถูกต้องปลอดภัยต่อไป ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เพราะความผิดปกตินั้นอาจลุกลามใหญ่โตได้
Recent Comments