เตือน! หากมีอาการเหล่านี้ ไม่ควรทำหัตถการร้อยไหม
การร้อยไหมเป็นหัตถการยอดนิยมที่ช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการทำหัตถการนี้ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้ว่าหากมีอาการหรือภาวะบางอย่าง ควรหลีกเลี่ยงการร้อยไหมโดยเด็ดขาด และปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางเลือกอื่นที่เหมาะสมกว่า
สัญญาณเตือน: ใครบ้างที่ไม่ควรร้อยไหม?
ก่อนร้อยไหม สิ่งที่คุณต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกคือสุขภาพและความพร้อมของร่างกายค่ะ การทำความเข้าใจข้อจำกัดของตัวเองจะช่วยป้องกันความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้น หากคุณมีภาวะเหล่านี้ ควรหลีกเลี่ยงการร้อยไหม
- ผู้ที่มีภาวะอักเสบหรือติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณที่จะร้อยไหม ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ ผื่นแดง ผิวหนังอักเสบ หรือมีแผลเปิด การร้อยไหมในขณะที่ผิวหนังมีการอักเสบหรือติดเชื้ออยู่ เป็นข้อห้ามเด็ดขาดเลยล่ะ การสอดเส้นไหมเข้าไปในบริเวณที่มีปัญหา อาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายลุกลาม เกิดการติดเชื้อที่รุนแรงขึ้น หรือทำให้ไหมที่ร้อยเข้าไปมีปัญหา เช่น ไหมทะลุ บวมแดงไม่ยุบ หรือเกิดหนอง ซึ่งนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงและแก้ไขได้ยาก ทางที่ดีควรรักษาอาการอักเสบหรือติดเชื้อให้หายสนิทก่อนเสมอ และรอให้ผิวกลับมาแข็งแรงเต็มที่จึงจะพิจารณาการทำหัตถการนะ
- คนที่มีประวัติแพ้ส่วนประกอบของเส้นไหม แม้ไหมที่ใช้ในการร้อยไหมส่วนใหญ่จะเป็นไหมละลายที่ผลิตจากวัสดุที่เข้ากันได้ดีกับร่างกายและปลอดภัยสูง แต่ก็มีโอกาสที่บางคนอาจมีอาการแพ้ต่อส่วนประกอบของไหมได้ อาการแพ้สามารถแสดงออกมาได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่ผื่นคัน บวมแดง ไปจนถึงอาการแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลยล่ะ ถ้าคุณทราบหรือสงสัยว่ามีประวัติแพ้สารใดๆ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบอย่างละเอียดและครบถ้วนก่อนเข้ารับการประเมินทุกครั้งนะ
- คนที่แพ้ยาชา ก็เป็นอีกกลุ่มที่ไม่ควรร้อยไหม การร้อยไหมจำเป็นต้องใช้ยาชาเฉพาะที่ เพื่อลดความเจ็บปวดระหว่างทำหัตถการ ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา อาจเกิดอาการแพ้ เช่น ผื่น ลมพิษ บวม หายใจลำบาก หรือรุนแรงถึงขั้นช็อกได้ ถ้าคุณมีประวัติแพ้ยาชาชนิดใดก็ตาม (ทั้งยาชาแบบทาหรือแบบฉีด) ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้าอย่างละเอียด เพื่อที่แพทย์จะได้พิจารณาทางเลือกอื่นในการระงับความรู้สึก หรือเลือกใช้ยาชาที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ในคุณ
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่าย หรือเลือดไหลไม่หยุด ก็ควรหลีกเลี่ยงการร้อยไหมนะ เช่น ผู้ป่วยโรคเลือดบางชนิด หรือผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดเป็นประจำ เพราะการร้อยไหมเป็นการสอดเข็มเข้าไปใต้ผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อเส้นเลือดฝอยได้ หากมีภาวะเลือดออกง่าย อาจทำให้เกิดรอยช้ำ บวม หรือมีเลือดออกใต้ผิวหนังได้มากกว่าปกติ และอาจหยุดยาก ซึ่งเป็นอันตรายและอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่สวยงาม ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัวและยาทุกชนิดที่กำลังรับประทานอยู่ เพื่อให้แพทย์ประเมินความเสี่ยงและพิจารณาให้งดยาบางชนิดชั่วคราวก่อนทำหัตถการ
- ผู้ที่มีประวัติการเกิดคีลอยด์ง่าย (Keloid) หรือแผลเป็นนูน เพราะการร้อยไหมเป็นการสร้างบาดแผลเล็กๆ ใต้ผิวหนัง ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดแผลเป็นนูน หรือคีลอยด์ได้ในผู้ที่มีพันธุกรรมหรือประวัติการเกิดคีลอยด์ง่าย หากคุณมีประวัติการเกิดคีลอยด์ ควรแจ้งแพทย์เพื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงและทางเลือกอื่นนะ
- หญิงตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร แพทย์มักแนะนำให้หลีกเลี่ยงการทำหัตถการเสริมความงามทุกชนิดในช่วงนี้ แม้จะยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าการร้อยไหมจะส่งผลกระทบต่อทารกหรือไม่ แต่เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของทั้งแม่และเด็ก ก็ควรงดไปก่อนดีกว่านะคะ
- ผู้ป่วยโรคประจำตัวบางชนิดที่ไม่สามารถควบคุมอาการได้ เช่น โรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี โรคหัวใจ หรือโรคแพ้ภูมิตัวเองบางประเภท เพราะโรคเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อการหายของแผล การติดเชื้อ หรือผลลัพธ์ของหัตถการได้ ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจร้อยไหม เพื่อให้แน่ใจว่าสุขภาพของคุณพร้อมสำหรับการทำหัตถการ

เมื่อร้อยไหมไม่ได้...แล้วมีทางเลือกอะไรบ้าง ?
หากคุณมีข้อจำกัดที่ทำให้ไม่สามารถร้อยไหมได้ ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะ Agaligo ยังมีหัตถการอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้าของคุณได้อย่างเหมาะสม และให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจไม่แพ้กัน การเลือกหัตถการที่เหมาะกับสภาพผิวหน้าและปัญหาของคุณเป็นสิ่งสำคัญที่สุด:
- การฉีดฟิลเลอร์ (Filler):
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ใบหน้าตอบ ขมับยุบ หรือเสริมบริเวณต่างๆ ให้ดูมีมิติ เช่น เติมใต้ตา ปรับรูปคาง ปาก หรือแก้มส้ม
- จุดเด่น: เห็นผลทันที, เติมเต็มวอลลุ่ม, ปรับรูปหน้าได้หลากหลาย
- การฉีดโบท็อกซ์ (Botox):
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าซ้ำๆ เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยตีนกา รอยขมวดคิ้ว หรือปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กด้วยการลดขนาดกล้ามเนื้อกราม
- จุดเด่น: ลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า, ปรับกรอบหน้าเรียว
- การทำเลเซอร์ยกกระชับ:
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยไม่ต้องฉีดหรือผ่าตัด
- ตัวอย่างเทคโนโลยี: เช่น Ultherapy, Thermage, Morpheus8 หรือ Hifu ซึ่งใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นเสียง คลื่นวิทยุ หรือคลื่นความถี่สูง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว
- จุดเด่น: ไม่ต้องผ่าตัด, ไม่ต้องพักฟื้น, ช่วยให้ผิวยกกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- การทำทรีตเมนต์บำรุงผิวหน้า:
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวโดยรวม เพิ่มความชุ่มชื้น ลดความหมองคล้ำ หรือลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ
- จุดเด่น: บำรุงผิวอย่างล้ำลึก, เพิ่มความกระจ่างใส, ปรับสภาพผิวให้แข็งแรง

สิ่งสำคัญที่สุด: อย่าลืมปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ !
ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจทำหัตถการใดๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และมีความรู้ด้านกายวิภาคของใบหน้าอย่างถ่องแท้ แพทย์จะสามารถประเมินสภาพผิวหน้า ปัญหา และข้อจำกัดส่วนบุคคลของคุณได้อย่างแม่นยำ เพื่อแนะนำหัตถการที่เหมาะสมที่สุด และวางแผนการรักษาที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณโดยเฉพาะ
อย่าตัดสินใจทำหัตถการใด ๆ ด้วยตนเอง หรือจากข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ การพูดคุยกับแพทย์คือขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุดในการก้าวสู่ความงามที่ปลอดภัยและมั่นใจค่ะ คุณพร้อมที่จะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเองแล้วหรือยัง
Ref:
https://www.vsquareclinic.com/blogs/do-dont-filler-facelift/
Recent Comments