ร้อยไหมละลาย กับ ร้อยไหมไม่ละลาย เลือกแบบไหนดี ?
เชื่อว่าหลายคนเมื่อพูดถึงหัตการร้อยไหม เราจะไม่ได้นึกถึงว่าร้อยไหมประเภทไหน แต่จะโฟกัสแค่ว่าร้อยไหมที่ไหนดี ตรงไหนที่จะทำให้หน้าดูดีใช่ไหมคะ จริงๆ ร้อยไหมมีสองประเภทค่ะ นั่นคือร้อยไหมละลายซึ่งได้รับการยอมรับในไทย และร้อยไหมไม่ละลาย ซึ่งไม่นิยมในไทยค่ะ
บทความนี้ Agaligo จะพามาเลือกว่าร้อยไหมทั้งสองแบบนี้มีข้อดีข้อเสียเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร แล้วทำไมร้อยไหมละลายถึงเป็นที่นิยมมากกว่าในไทย
ร้อยไหมละลาย ร้ายหรือดี ?
การร้อยไหมที่ดี ควรจะต้องเป็นการร้อยไหมที่ส่งเสริมใบหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ และต้องไม่ทำให้หน้าดูฝืนหรือไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งการร้อยไหมละลายก็ตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี
ร้อยไหมละลาย เป็นหัตถการที่อาศัยการใช้เข็มขนาดเล็กนำเส้นไหมชนิดพิเศษที่มี “เงี่ยง” หรือ “ปม” (barb) สอดเข้าไปยังชั้นผิวหนัง เพื่อทำหน้าที่คล้ายตะขอเกี่ยวและดึงยกเนื้อเยื่อผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้นทันทีหลังทำ ไหมที่ใช้ในปัจจุบันเป็นไหมที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไหมละลายที่ทำด้วยวัสดุ Polydioxanone (PDO) ซึ่งเป็นวัสดุที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากทั้งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย และองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) เนื่องจากเป็นวัสดุที่เข้ากันได้ดีกับร่างกายและไม่ทิ้งสารตกค้าง จึงเรียกไหมชนิดนี้ว่า “ไหมก้างปลา” ด้วยลักษณะที่มีเงี่ยงคล้ายก้างปลาเล็กๆ นั่นเอง
ข้อดีของการร้อยไหมละลาย :
- ยกกระชับเห็นผลทันที: หลังจากการร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ถูกต้องและเหมาะสม คุณจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของใบหน้าที่ยกกระชับขึ้นได้ทันที ช่วยปรับกรอบหน้าให้คมชัด ลดความหย่อนคล้อยบริเวณแก้ม เหนียง หรือคิ้วได้เป็นอย่างดี
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: นอกจากจะช่วยยกกระชับแล้ว เส้นไหมที่สอดเข้าไปยังทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ขึ้นมาล้อมรอบแนวไหม เส้นใยคอลลาเจนเหล่านี้จะทำหน้าที่เสมือนตาข่ายช่วยประคองผิวให้แข็งแรงและเต่งตึงอยู่ได้นานยิ่งขึ้น แม้เส้นไหมจะสลายไปแล้ว ผิวก็ยังคงความกระชับอยู่ได้ระยะหนึ่ง
- ปลอดภัยสูง: ไหมละลายที่ใช้ในปัจจุบัน เช่น PDO เป็นวัสดุที่แพทย์ใช้ในการเย็บแผลผ่าตัดมานาน จึงมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย ไม่เกิดการตกค้างในร่างกาย
- ไม่ต้องพักฟื้นนาน: แตกต่างจากการผ่าตัดศัลยกรรม การร้อยไหมละลายมีรอยแผลเล็กมาก และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน ผู้รับบริการสามารถกลับไปทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ค่อนข้างเร็ว
- สามารถทำซ้ำได้: เมื่อไหมละลายหมดไปตามธรรมชาติและผลลัพธ์เริ่มลดลง คุณสามารถกลับมาร้อยไหมซ้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ข้อจำกัดของการร้อยไหมละลาย:
- ไม่คงทนถาวร: นี่คือข้อที่ต้องทำความเข้าใจ เส้นไหมละลายจะค่อยๆ สลายตัวไปเองตามธรรมชาติ โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหม จำนวนเส้น และการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล ดังนั้น ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่ถาวรเหมือนการผ่าตัดศัลยกรรมยกกระชับ
- ต้องทำซ้ำเมื่อไหมสลาย: เนื่องจากไหมสลายได้เอง การรักษาสภาพความกระชับของใบหน้าจึงจำเป็นต้องกลับมาร้อยไหมซ้ำเป็นระยะๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อคงผลลัพธ์ที่ต้องการไว้
- อาจมีอาการบวมช้ำเล็กน้อย: หลังการทำหัตถการ อาจมีอาการบวมช้ำ หรือรอยเข็มเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการปกติและจะค่อยๆ ดีขึ้นภายในไม่กี่วัน

ร้อยไหมไม่ละลาย เสี่ยงต่อผิว ?
ก่อนที่เราจะมีไหมละลายอย่างในปัจจุบัน วงการเสริมความงามเคยมีการใช้ “ไหมไม่ละลาย” หรือที่เรียกกันว่า “ไหมทองคำ” มาก่อน ซึ่งเป็นเทคนิคจากยุคเก่าเมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่แล้ว โดยใช้เส้นไหมทองคำบริสุทธิ์ 99.9% สอดเข้าไปใต้ผิวเพื่อช่วยดึงกระชับใบหน้า
แต่ ไหมไม่ละลาย ชนิดนี้ ไม่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในประเทศไทย และปัจจุบันก็ไม่มีการผลิตแล้ว นั่นเป็นเพราะว่า เมื่อมีการนำมาใช้จริง กลับพบปัญหาตามมามากมายและเป็นอันตรายในระยะยาว มากกว่าข้อดีนั่นเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
- ใบหน้าผิดรูปถาวร: เนื่องจากตัวไหมไม่สามารถสลายไปเองตามธรรมชาติ เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายอาจเกิดปฏิกิริยา ทำให้ไหมกลายเป็นก้อน แข็ง หรือดึงรั้งผิวจนใบหน้าผิดรูปไปจากเดิม และยากต่อการแก้ไข
- ปัญหาจากการเป็นโลหะ: เส้นไหมทองคำเป็นโลหะ ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซับความร้อนได้ดี ทำให้เกิดปัญหาเมื่อต้องเข้ารับการทำหัตถการที่ใช้ความร้อน เช่น การทำเลเซอร์ หรือ Thermage เพราะอาจทำให้ผิวไหม้หรือเสียหายได้ง่าย นอกจากนี้ ยังส่งผลรบกวนเมื่อต้องเข้ารับการตรวจทางการแพทย์ที่ใช้เครื่องมืออย่างการทำ X-ray หรือ MRI อีกด้วย
ด้วยเหตุผลเหล่านี้เอง ไหมไม่ละลาย จึงไม่เป็นที่นิยมและไม่แนะนำให้ใช้ในปัจจุบัน เพราะความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพและความงามในระยะยาวนั้นสูงมาก และไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายเหมือนไหมละลายค่ะ
สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจเรื่องการร้อยไหม สามารถเข้ามาปรึกษาขอคำแนะนำจาก Agaligo คลินิกที่พร้อมดูแลใบหน้าของคุณให้สวยเป็นธรรมชาติได้ ที่สำคัญใช้ร้อยไหมที่ได้มาตรฐานและแพทย์มีความเชี่ยวชาญไว้ใจได้แน่นอน
Ref : https://www.vsquareclinic.com/tips/pdo-thread-lift/
Recent Comments