การ “การร้อยไหมอิตาลี (Definisse)” เทคนิคการร้อยไหมที่แตกต่างจากการร้อยไหมแบบเดิม เพราะใช้ไหมน้อยลง เจ็บน้อยกว่า อยู่ได้นานกว่า และสามารถออกแบบทรงหน้าได้แม่นยำมากขึ้น ด้วยเทคนิคการร้อยไหมเฉพาะทาง ทำให้เป็นทางเลือกที่ แก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยแห่งวัยได้อย่างตรงจุด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับหน้าแบบเร่งด่วนเห็นผลไวทันใจไม่ต้องพักฟื้นนาน นอกจากนั้นแล้วการร้อยไหมหลังจากที่ไหมละลายสูญสลายไว้หมดแล้ว ตัวไหมจะทำการฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างชั้นอิลาสติน และคอลลาเจนในหน้า ทำให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับยังคงอยู่ แม้ว่าไหมอาจจะละลายไปหมดแล้ว
ไหมอิตาลีคืออะไร ?
ไหมอิตาลี (Definisse-Italian Thread Lift) เป็นเส้นไหมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ผลิตด้วยการนำเอาจุดเด่นของไหม PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ที่มีความปลอดภัยสูงและสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มารวมกับไหม PCL (Polycaprolactone) ที่มีความแข็งแรงและทนทานสูง จึงทำให้ได้ ไหมร้อย PLACL ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นทั้งในด้านความปลอดภัย ประสิทธิภาพในการยกกระชับใบหน้า และความคงทนยาวนาน
โดยที่เราเรียกกันว่าไหมอิตาลีนั้น เป็นเพราะมันถูกผลิตขึ้นภายใต้แบรนด์ Definisse ที่เป็นแบรนด์เครื่องมือทางการแพทย์ของอิตาลี
ไหมอิตาลี มีกี่แบบ ?
ไหมอิตาลีจะมีทั้งหมด 2 ขนาด คือ ขนาด 12 cm และ ขนาด 23 cm ซึ่งมีประสิทธิภาพเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ตำแหน่งในการใช้งาน ดังนี้
- ไหมขนาดความยาว 12 cm เป็นไหมสั้น ใช้สำหรับเก็บงานในจุดเล็ก ๆ เช่นใช้ยกคิ้ว ยกหางตา เก็บกรอบหน้าบริเวณขากรรไกร หรือเก็บร่องน้ำหมาก เป็นต้น
- ไหมขนาดความยาว 23 cm เป็นไหมยาว ใช้เก็บพื้นที่ขนาดใหญ่ที่กินบริเวณเช่น กรอบหน้า แก้ม และบริเวณคอนั่นเอง
เทคนิคการร้อยไหมอิตาลี
การร้อยไหมอิตาลี จะใช้เทคนิคในการร้อยแบบ Double Needle Threads หรือการร้อยไหมคู่ คือการ ใช้เข็ม 2 เข็มในการช่วยร้อยไหมเส้นเดียว การร้อยหน้าด้วยเทคนิคนี้ จะทำให้ได้ทรงหน้าที่แม่นยำ และมีความเป็นธรรมชาติ ทำให้ได้ผลลัพธ์เรื่องความอ่อนเยาว์ในแบบที่เติมเต็มจากการรักษาอื่น ๆ
ทำไมต้อง ร้อยไหมอิตาลี ? แตกต่างจากไหมแบบอื่นอย่างไร ?
- ปลอดภัยและเข้ากันได้กับร่างกาย: ไหมอิตาลี PLACL ซึ่งเป็นวัสดุที่ปลอดภัยและเข้ากันได้กับร่างกายมนุษย์ จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือการระคายเคือง
- ละลายได้เอง: ไหมอิตาลี จะละลายและสลายตัวไปเองภายใน 12-18 เดือนหลังจากการผ่าตัด จึงไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อเอาไหมออก ไม่ต้องกังวลเรื่องการตกค้าง
- มีปุ่มเล็กๆ เรียงตัวตลอดความยาว: ปุ่มเล็กๆ เหล่านี้จะช่วยยึดเกาะเนื้อเยื่อได้ดีกว่าไหมแบบเรียบ จึงให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า
- มีความยืดหยุ่นสูง: ไหมอิตาลี มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยให้สามารถปรับรูปทรงได้ตามต้องการ จึงเหมาะสำหรับการร้อยไหมเพื่อยกกระชับใบหน้าและปรับรูปหน้า
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: ไหมอิตาลี จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและเต่งตึงมากขึ้น
ปัญหาแบบไหนที่เหมาะกับการร้อยไหมอิตาลี ?
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการยกกระชับแบบเร่งด่วน เห็นผลลัพธ์ชัดเจนและอยู่ได้นาน ผู้ที่มักมีปัญหาผิวบาง ผิวช้ำง่าย ก็จะยิ่งเหมาะมากๆ เพราะด้วยเทคนิคของไหมอิตาลี ที่โอกาสเกิดการช้ำเขียวน้อยกว่า ไหมชนิดอื่นๆ รวมถึงความยาวนานของผลลัพธ์ที่ได้รับ และยังเหมาะผู้ที่มีปัญหาบนใบหน้าอื่นๆ อาทิ
- ผิวหย่อนคล้อย
- ริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้า
- คาง 2 ชั้น
- ใบหน้าไม่เรียว
- กรอบหน้าไม่ชัด
- รู้สึกมีแก้มตอบ มีร่องน้ำหมาก ร่องแก้ม
- ร่องแก้มลึก
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการร้อยไหมอิตาลี
งดรับประทานยาแอสไพรินหรือยาต้านการอักเสบอื่นๆ ก่อนเข้ารับการทำหัตถการอย่างน้อย 1 สัปดาห์
แจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการแพ้ยาหรือโรคประจำตัวที่มีอยู่
การดูแลตัวเองหลังเข้ารับการร้อยไหมอิตาลี
ประคบเย็นบริเวณที่ร้อยไหมเพื่อลดอาการบวมและช้ำ
หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าแรงๆ หรือการนวดบริเวณที่ร้อยไหม
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำมากๆ
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดหรือเข้าห้องอบไอน้ำ
หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวด บวม แดง ร้อน หรือมีหนองไหล ให้รีบพบแพทย์ทันที
คำถามเกี่ยวกับไหมอิตาลีที่พบบ่อย
Q: การร้อยไหมอิตาลีอยู่ได้กี่เดือน ?
- A: ไหมอิตาลี เป็นวัสดุ PLACL จะเริ่มดูดซึมเข้าชั้นผิวโดยใช้ระยะเวลา 12-18 เดือน แต่ผลของการยกกระชับนั้นจะยาวนานสูงสุดถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลและบำรุง
Q: ร้อยไหมอิตาลีมีความเสี่ยงอะไรบ้าง ?
- A: การออกแบบทิศทางการยกกระชับของไหมให้ได้รูปหน้าที่เป็นธรรมชาติ ถ้าทำด้วยความแม่นยำและเทคนิคที่ถูกต้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีความเสี่ยงน้อยมาก
Q: ร้อยไหมอิตาลีบวมกี่วัน ?
- A: หลังจากทำเสร็จไม่สามารถมองเห็นอาการบวมได้ชัดเจน แต่อาจจะรู้สึกได้เล็กน้อย ประมาณ 1-2 วัน
Q: ร้อยไหมอิตาลีพักฟื้นกี่วัน ?
- A: ใช้เวลาพักฟื้น 1 วัน
Q: หากไหมขาดต้องทำอย่างไร ?
- A: ที่ผ่านมาทางอะกาลิโกยังไม่เคยเจอเคสไหมขาด เพราะเส้นไหมมีความเหนียวทนทานมาก รวมไปถึงเทคนิคและความแม่นยำของคุณหมอทำให้ไม่เกิดความเสี่ยงที่ไหมจะขาดได้ แต่อย่างไรก็ตามในกรณีที่เส้นไหมขาดภายใต้ชั้นผิวควร ติดต่อแพทย์ทันที
Recent Comments