ปลูกผมที่ไหนดี? ปลูกผม Agaligo clinic ดีอย่างไร ?
ศัลยกรรมปลูกผม คือ การนำรากผมบริเวณหลังศีรษะท้ายทอยและเหนือกกหู ที่มีความแข็งแรงที่สุด และไม่ส่งผลต่อฮอร์โมน
DHT (Dihydrotestosterone) ฮอร์โมนนี้จะทำให้ผมร่วง ผมบาง และผมเส้นเล็กลง เราจะนำรากผมมาปลูกผมลงบริเวณที่มีปัญหาศีรษะล้าน ศีรษะเถิก ผมบาง ผมร่วง รวมถึงยังสามารถปลูกผมทับในบริเวณที่เป็นแผลเป็นได้ด้วย
โดยการศัลยกรรมปลูกผมสามารถช่วยแก้ไขปัญหาผมบาง ศีรษะเถิก ศีรษะล้านได้ และผมที่เกิดขึ้นมาใหม่จากการปลูกผมจะมีวงจรชีวิตเหมือนกับผมจริงๆ สามารถร่วงและขึ้นได้ใหม่ บางคนจึงอาจเรียกการศัลยกรรมปลูกผมว่า “การปลูกผมถาวร”
ซึ่งจริงๆ แล้วศัลยกรรมปลูกผมมีมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 1950 เริ่มครั้งแรกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคนิคและเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำมากขึ้น พร้อมทั้งยังมีเทคนิคที่หลากหลายมากกว่าเดิมเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาผมบาง ผมร่วงได้อย่างตรงจุดมากที่สุด
ปัจจุบันเทคนิคที่นิยมใช้ ปลูกผม หรือปลูกผมถาวรมีอยู่สองแบบ ก็คือวิธี FUE และ FUT โดยทั้งสองอย่างมีจุดประสงค์เพื่อย้ายรากผมจากบริเวณเหนือกกหูและด้านหลังศีรษะ (Donor Area) มาปลูกในบริเวณที่ผมบางแทน
ประมาณ 1 ปี ถึง ปีครึ่ง เส้นผมก็จะงอกขึ้นใหม่เต็มที่และเป็นธรรมชาติโดยไม่ร่วงอีก เพราะรากผมจากเหนือกกหูและด้านหลังศีรษะนั้นมีความแข็งแรงและไม่ได้ถูกฮอร์โมนที่ชื่อว่า DHT ทำร้าย เพราะเจ้า DHT นี่แหละคือตัวการที่ทำให้ผมร่วง
ปัญหาหัวล้าน ผมบาง ผมร่วง จนทำให้เสียความมั่นใจ เพราะ “ผม” เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ใบหน้าของเราดูดียิ่งขึ้น ดั้งนั้นปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการ “ปลูกผม”
สำหรับการปลูกผมเสริมสร้างความมั่นใจ Agaligo Clinic พร้อมให้คำปรึกษาดูแลทุกเคสโดย พญ. ปัญชลี ตปนียากร (คุณหมอพีเค) แพทย์มากประสบการณ์ด้านการปลูกผม ด้วยเทคนิค AGLG ไร้รอยแผลเป็น เจ็บน้อย ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ