สิวเกิดจากอะไร? ทำอย่างไรให้สิวหาย?

สิว สามารถขึ้นได้ทุกที่ในร่างกาย โดยบริเวณที่มักจะพบสิวมากที่สุดก็คือบริเวณใบหน้า รวมไปถึง คอ ไหล่ และหลังอีกด้วย
ปัญหาเรื่องสิว เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับคนทั่วไป

สาเหตุของการเกิดสิว
ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว สามารถแบ่งออกเป็น ปัจจัยภายในร่างกายและปัจจัยภายนอกร่างกาย ดังนี้

1. ปัจจัยภายในร่างกาย ได้แก่

• ต่อมไขมันผลิตออกมามากเกินปกติ
• แบคทีเรีย p acne
• การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน androgen (เช่น ในช่วงวัยรุ่น หรือ ช่วงที่มีประจำเดือน)
• พันธุกรรม
• ความเครียด

2. ปัจจัยภายนอกร่างกาย

• ยาภายนอก เช่น corticosteroid,testosterone,litium
• อาหารบางชนิด พวก carbohydrate rich food ขนมปัง ช๊อคโกแลต เป็นต้น
• เครื่องสำอางค์บางชนิด
• กลุ่ม oily lotion
• การกดทับ ใบหน้า เป็นต้น

ชนิดของสิว ขึ้นกับความรุนแรง
1. White comedone สิวอุดตันหัวปิด
2. Black comedone สิวอุดตันหัวเปิด
มองเห็นจุดสีดำอยู่บริเวณตรงกลาง ซึ่งจุดสีดำเกิดจากน้ำมัน (Sebum) ทำปฏิกิริยาoxidation กับออกซิเจนในอากาศ เปลี่ยนไขมันเป็นสีดำ
3. Papuleสิวอักเสบ มีลักษณะตุ่มนูน มีสีแดง มีอาการปวด หรือแสบร่วมด้วย สิวประเภทนี้กลายร่างมาจากสิวอุดตัน โดยเกิดขึ้นจากรุขุมขนอุดตันแล้ว แต่น้ำมันจากต่อมไขยังคงผลิตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สิวอุดตันขยายใหญ่ขึ้น จนทำให้รูขุมขนที่อุดตันนั้นแตก หรือรั่วออก และน้ำมัน เศษซากผิวที่ตายแล้ว และเชื้อแบคทีเรียP.acne กระจายบริเวณรอบๆ ร่างกายจึงพยายามใช้เม็ดเลือดขาวกำจัดเชื้อแบคทีเรีย และสิ่งแปลกปลอม จนกลายเป็นสิวอักเสบขึ้นมา สิวชนิดนี้ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี อาจกลายเป็นสิวหัวหนอง (Pastule) ได้
4. Pustules สิวอักเสบหัวหนองบริเวณฐานสิวมีสีแดง แต่หัวสิวมีหนองสีขาวนูนขึ้นมา เป็นสิวที่พัฒนามาจากสิวชนิดตุ่มนูนแดง (Papule) ที่ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง
5. (Cystic Acneหรือสิวหัวช้าง) มีลักษณะตุ่มสีแดง ขนาดใหญ่ เป็นไตแข็งๆ เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเจ็บมาก และมีถุงซีสต์ขนาดใหญ่อยู่ลึกลงไปใต้ชั้นผิวหนัง เกิดจากการอักเสบของสิวที่อยู่ลึกใต้ชั้นผิวหนัง จนเกิดหนองขึ้นกลายเป็นก้อนซีสต์ขนาดใหญ่ เมื่อเป็นควรรีบพบแพทย์เพื่อรักษา
6. สิวผด.(Acne aestivalis) สิวประเภทนี้จะพบเห็นได้บ่อย ๆ มีลักษณะคล้ายผดผื่นเล็ก ษณะแตกต่างไปจากสิวทั่วไป เช่น สิวอุดตันหรือสิวอักเสบอื่นๆ โดยมีลักษณะทั่วไปคล้ายกับผดผื่นขนาดเล็ก เป็นตุ่มเม็ดเล็กๆใสๆ เป็นสิวประเภทที่แสดงอาการเมื่ออากาศร้อน ยิ่งร้อนยิ่งเป็นมาก ดังนั้นจึงจะไม่ค่อยแสดงอาการในช่วงเช้าที่อากาศยังเย็นอยู่ แต่จะแสดงอาการมากในช่วงบ่ายๆที่มีอากาศร้อน โดยจะเห็นเป็นผื่นสีแดงขึ้นอย่างชัดเจน
7. สิวชนิดอื่นอื่น เป็นต้น

การรักษา
Tropical medication
1. Retinoid like drugs กลุ่ม retin-a
2. Antibiotic เช่น กลุ่ม clindamycin,erythromycin
3. Benzyl peroxide

Oral medication
1 antibiotics
– tetracycline,doxycycline,macrolide
– Amoxicillin
(การทานยาขึ้นอยู่กับแพทย์สั่ง และความรุนแรงของสิว )
2. Combined oral contraceptives
3.Isotretinoin. อนุพันธ์ vitA

การรักษาอื่นอื่นที่ควรมี
1. กดสิว comedone extraction
2. กลุ่ม laser ลดการอักเสบของสิวและลบรอยสิว เช่น LED ,IPL
3. Chemical peeling :acne peel
4. Steroid injections

การดูแลรักษาสิวเบื้องต้นด้วยตัวเอง
1. ควรล้างหน้าและใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนเป็นสิว
2. ล้างหน้าให้เช็ดเบาเบา ไม่ควรถูหน้าแรงแรงและสคลับหน้า
3. ไม่ควรล้างหน้าบ่อยจนเกินไป
4. ไม่ควรบีบ แกะสิวด้วยตัวเอง
5. ลดภาวะกระตุ้นการเกิดสิวต่างต่าง ความเครียด นอนน้อย อาหารที่มีความมันและ carbohydrate rich
6. เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ดูแลความสะอาดปลอกหมอน อากาศในห้องให้สม่ำเสมอ รวมถึงผ้าเช็ดหน้าควรเปลี่ยนทุกวัน
6. ทายา กินยา และไปพบแพทย์ตามนัดให้สม่ำเสมอ

สอบถามหรือนัดหมาย ได้ที่ Tel. 095-295-6594 , 095-596-6159

Inbox: m.me/agaligoclinic line@ : https://agaligo.co.th/line

#agaligoclinic #timelessbeauty