Review

ผมร่วงคือภาวะอะไร

ผมร่วงและผมบางเป็นภาวะที่พบบ่อยในเวชปฏิบัติ

ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า สรีรวิทยาของเส้นผม การงอกของเส้นผมคืออย่างไร

ผมเป็นส่วนนึงของหนังกำพร้า จะมีเส้นผม 2 แบบด้วยกัน คือ

1 ขนอ่อน หรือ venus hair

2 Terminal hair หรือผมเส้นที่ปรากฏบริเวณศรีษะ ขนรักแร้ หนวด เครา เป็นต้น

เมื่อเราถึงวัยหนุ่มสาว การงอกของผมก็จะขึ้นอยู่กับ ฮอร์โมนโดยตรง ก็คือ estrogen and androgen

การงอกของเส้นผม มีวงจร

ระยะเติบโต anagen เส้นผมแข็งแรงสุด หนาสุด มีเลือดมาเลี้ยงมากที่สุด คนส่วนใหญ่จะมีเส้นผมระยะนี้ กินเวลานานถึง 3 ปี (ส่วนใหญ่ของผมบนศรีษะจะเป็นระยะนี้ประมาณ 80%)

ระยะก่อนหลุดร่วง catagen

ระยะหลุดร่วง telogen เส้นผมหยุดเจริญเติบโตและร่วงไปในที่สุด (10-15%ของศรีษะเราเป็นระยะนี่)

และผมคนปกติไม่ควรร่วงเกิน วันละ 100 เส้น ในกรณ๊ไม่สระผม

การจำแนกประเภทผมร่วง

จะมีการวินิจฉัยผมร่วงอยู่ 3 แบบ ก็คือ
ผมร่วงชนิดไม่มีแผล
ผมร่วงชนิดไม่มีแผล
ผมร่วงประเภทอื่นอื่น

แต่บทความนี้ หมอจะมาเน้นเรื่อง

ศรีษะล้านชนิดที่พบบ่อย คือ

Pattern alopecia

andogenic alopecia

ผมบางในผู้ชาย เกิด จาก 3 ปัจจัยใหญ่.     รูป

ฮอร์โมน

พันธุกรรม แบบ ชนิด autosomal dominant

การแก่ตัวลง

ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้ เส้นผม ระยะ anaphase ที่เกิดขึ้นใหม่ จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กลง จนกลายเป็นขนอ่อน และหลุดร่วงไปในที่สุด ส่งผลให้เกิดภาวะศรีษะล้านในที่สุด

แบ่งออกเป็น

Localized alopecia

หัวล้านหัวบางในผู้ชาย  male pattern baldness

❄️ ทำไมถึงควรเลือกทำ Cool swiss ที่ อะกาลิโก คลินิก? ❄️

จากประสบการณ์ในการดูแลเคสที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินจำนวนมาก เราค้นพบเทคนิคเฉพาะของคลินิกในการวางแผนการรักษา ความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ชั้นไขมัน และเลือกระดับความเย็นที่เหมาะสมในการกำจัดไขมันแต่ล่ะจุด ที่แตกต่างจากที่อื่นๆ โดยวัดผลจากการวัดสัดส่วน และเก็บข้อมูลของคนไข้ทุกเคสที่เราดูแล ทุกคอร์ส มีการวัดผลเปรียบเทียบด้วยตัวเลขที่ชัดเจน
เรามีการเก็บข้อมูลโดยการวัดรอบแขน รอบเอว รอบขา ทุกครั้ง

การันตี ด้วยรางวัล Iconic Fat Freezing Technique จากนิตยสารแพรว ประจำปี 2021

❄️ ทำไมถึงควรเลือก Cool Swiss ในการลดสัดส่วน หรือสลายไขมันเฉพาะส่วน ?? ❄️

Cool swiss มีระบบการนวดแบบดูดคลาย สลับกัน ในขณะที่เครื่องทำงาน จึงสามารถช่วยลดความเจ็บ ได้มากกว่า เครื่องอื่นๆ ที่เป็นเทคโนโลยีประเภทเดียวกัน ทำให้ขณะทำคนไข้รู้สึกสบาย ผ่อนคลายจนสามารถนอนหลับได้

Cool swiss มีระบบ Pre heating คือการปรับอุณหภูมิอุ่น ก่อนทำ เพื่อช่วยให้ปรับเนื้อเยื่อบริเวณที่จะทำให้ตื่นตัว มีเลือดไหลเวียนมาเลี้ยงผิวหนังมากขึ้น และรู้สึกสบายผิว

Cool swiss มีระบบ Post Heating คือการปรับอุณหภูมิอุ่น หลังทำ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพื่อลดการช้ำ และลดอาการแดงที่ผิวหนัง ที่อาจเกิดได้จากความเย็นจัด

Cool swiss ใช้ระบบหัวหนีบทำความเย็น มากถึง 4 หัว ในเครื่องเดียว ทำให้ประหยัดเวลามากกว่า ในกรณีที่คนไข้ ทำ 1 ชั่วโมง สามารถทำพร้อมๆกันในคราวเดียวได้ถึง 4 บริเวณ (เช่น สามารถทำต้นแขน 2 ข้าง พร้อมๆ กับขณะที่ทำต้นขาทั้ง 2 ข้าง ภายใน 1 ชั่วโมง หรือ สามารถ ทำหน้าท้อง 2 จุด พร้อมๆกับทำต้นขาด้านใน 2 ข้าง ได้ในเวลาเดียวกัน )

❄️ Cool swiss ต่างจาก Coolsculpting อย่างไร❄️

Cool swiss เป็นแบรนด์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์
Coolsculpting เป็นแบรนด์จากประเทศอเมริกา
แต่ Cool swiss มีหัวทำความเย็นที่สามารถทำงานได้พร้อมกันได้ทันที 4 หัว ทำให้ประหยัดเวลามากกว่า
Cool swiss ใช้ระบบหัวหนีบทำความเย็น มากถึง 4 หัว ในเครื่องเดียว ทำให้ประหยัดเวลามากกว่า ในกรณีที่คนไข้ ทำ 1 ชั่วโมง สามารถทำพร้อมๆกันในคราวเดียวได้ถึง 4 บริเวณ (เช่น สามารถทำต้นแขน 2 ข้าง พร้อมๆ กับขณะที่ทำต้นขาทั้ง 2 ข้าง ภายใน 1 ชั่วโมง หรือ สามารถ ทำหน้าท้อง 2 จุด พร้อมๆกับทำต้นขาด้านใน 2 ข้าง ได้ในเวลาเดียวกัน )

❄️ Cool swiss ช่วยอะไรได้บ้าง❄️

Cool swiss ทำหน้าที่กำจัดไขมันส่วนเกิน บริเวณต่างๆของร่างกาย เป็นการแก้ไขที่ตรงจุดได้มากกว่า ทำให้เซลล์ไขมันเกิดการ Apoptosis และขับออกทางร่างกายเองตามธรรมชาติ โดยไม่ทำให้เนื้อเยื่อเสียหาย ช่วยเสริมประสิทธิภาพการออกกำลังกาย สัดส่วนลดลง รูปร่างกระชับมากยิ่งขึ้น

❄️ Cool swiss ทำบริเวณไหนได้บ้าง❄️

– ท้องแขน ต้นแขน
– รอบเอว พุง สะโพก
– หน้าท้องบน หน้าท้องล่าง
– ต้นขา ขาด้านใน ขาด้านนอก

❄️ ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Cool swiss❄️

• ไขมันเก่า ลดลงถาวร
• สัดส่วนลดลงภายใน 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันบริเวณที่ทำ
• เห็นผลหลังจากทำติดกันตามคำแนะนำ 2 ครั้งขึ้นไปต่อ บริเวณ

❄️ ความรู้สึก ของการทำ Cool swiss เจ็บหรือไม่❄️

• ตอนเริ่มทำ : รู้สึกเหมือนมีคนมาดึงผิวหนัง ไม่เจ็บ รู้สึกตึงๆแน่นๆ อุ่นๆ
• 5 นาทีแรก :เริ่มรู้สึกเย็น ๆ เหมือนเอามือไปจับน้ำแข็ง
• 15 นาทีต่อมา : เริ่มรู้สึกเย็นจนชา จนครบเวลาที่กำหนด
• หลังทำเสร็จ : อาจรู้สึกเย็นๆหนาวๆ อย่างอื่นก็ปกติ
• หลังทำ 1-3 วัน : รู้สึกเมื่อยๆ เหมือนหลังออกกำลังกายหนัก โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย จะรู้สึกเมื่อยมากกว่าปกติ แต่จะหายไปเองภายใน 4 วัน
• หลังทำ 14 วัน : เริ่มรู้สึกใส่เสื้อผ้าสบายขึ้น เห็นผลชัดมากขึ้น สัดส่วนลดลง